เมื่อผู้คนในปัจจุบันให้ความสนใจกับการตรวจสุขภาพมากขึ้น มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ทำสื่อให้ความรู้ที่เข้าถึงง่ายมากขึ้น การตรวจสุขภาพประจำปีไม่ใช่เรื่องที่ดูสิ้นเปลืองหรือน่ามองข้ามแต่อย่างใด โดยพื้นฐานแล้วการตรวจสุขภาพที่ทุกคนสามารถใช้สิทธิสวัสดิการต่าง ๆ ได้อาจเป็นการตรวจแค่พื้นฐานเท่านั้น ถ้าต้องการรู้ลึกเรื่องสุขภาพตนเองมากขึ้นควรเลือกตรวจสุขภาพแบบพรีเมียมที่ครอบคลุมความเสี่ยงต่าง ๆ ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงเรื่องโรคร้ายแรง ภาวะแพ้อาหารหรือแพ้ยาที่อาจไม่รู้ตัวมาก่อน ไปจนถึงรู้ว่าร่างกายควรเสริมสารอาหารใดบ้าง เพื่อให้สุขภาพแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

ข้อดีของการเลือกตรวจสุขภาพประจำปีแบบพรีเมียม

การตรวจสุขภาพแบบพื้นฐาน สามารถบ่งบอกได้หลายอย่างเกี่ยวกับสภาพร่างกาย เพราะโรคที่ซับซ้อนจะแสดงออกผ่านผลการตรวจพื้นฐานตรงนี้เอง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถวินิจฉัยไปได้หลายอย่าง หากไม่ได้ตรวจอย่างเฉพาะเจาะจง การตรวจสุขภาพประจำปีแบบพรีเมียมจะช่วยให้ตรวจแบบเชิงลึกได้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความต้องการด้านสุขภาพดังต่อไปนี้

1. เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว

ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว ยิ่งเป็นการตรวจสุขภาพประจำปีที่ให้บริการแบบพรีเมียม จะช่วยให้เข้าถึงเทคโนโลยีการตรวจเพื่อเฝ้าระวังโรคได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้พบต้นตอหรือปัจจัยเสี่ยงของโรคได้อย่างชัดเจน ทำให้แพทย์ผู้ตรวจวินิจฉัยสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. เหมาะกับการตรวจเช็กความเสี่ยงตามช่วงวัยแบบเฉพาะด้าน

การตรวจสุขภาพสำหรับคนในแต่ละช่วงวัยมีจุดที่ต้องให้ความสำคัญไม่เหมือนกัน สำหรับวัยเด็กหรือวัยรุ่นอาจเน้นไปที่ด้านพัฒนาการต่าง ๆ ของร่างกาย การตรวจสุขภาพประจำปีของวัยทำงานจะเน้นด้านการคัดกรองความเสี่ยงที่คนวัยทำงานมักเป็นกัน สำหรับผู้สูงอายุก็จะช่วยตรวจเพื่อวางแผนบำรุงร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น ไม่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยง่าย ถ้าตรวจได้ละเอียดและเจาะลึกสำหรับรายบุคคล ก็จะช่วยให้เข้าใจสภาพร่างกายตัวเองมากขึ้น

ตรวจสุขภาพประจำปี

3. เหมาะกับผู้ที่ต้องการวางแผนสุขภาพอย่างเจาะลึก

แม้จะไม่ได้มีความต้องการพิเศษอะไร แต่พบว่าตนเองมีอาการที่มักเป็นบ่อย ๆ เช่น ผิวขึ้นผื่นคันบ่อย ๆ ทั้งที่ไม่ได้สัมผัสสารก่อภูมิแพ้ มีอาการนอนไม่หลับเรื้อรังทั้งที่ไม่มีความเครียด มีอาการปวดเรื้อรังแบบไม่ทราบสาเหตุ เป็นต้น ควรได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเจาะลึกเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะถ้าตรวจสุขภาพเฉพาะพื้นฐานทั่วไปอย่างเดียวอาจไม่พบความผิดปกติใด ๆ จำเป็นต้องอาศัยการวินิจฉัยเชิงลึกจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากขึ้น

ตรวจสุขภาพประจำปีแบบพรีเมียม มีอะไรเพิ่มเติมจากการตรวจพื้นฐานบ้าง

การตรวจสุขภาพประจำปีแบบทั่วไปจะมีการตรวจ 4 อย่างเป็นหลักที่ขาดไม่ได้ ได้แก่ ตรวจเลือด ตรวจความดันโลหิต ตรวจปัสสาวะหรืออุจจาระ และการเอกซเรย์ปอด รวมถึงมีการซักถามประวัติประกอบการวินิจฉัย ส่วนรายการอื่น ๆ เพิ่มเติมอาจแล้วแต่แพ็กเกจหรือสวัสดิการตรวจสุขภาพที่แต่ละองค์กรมอบให้ ส่วนการตรวจสุขภาพด้วยแพ็กเกจแบบพรีเมียมนั้นจะเป็นการใช้เทคโนโลยีการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีการตรวจพิเศษที่น่าสนใจ ดังนี้

1. การตรวจสมรรถภาพของอวัยวะภายในอย่างละเอียด

อวัยวะภายในไม่ว่าจะเป็นหัวใจ ปอด ตับ ไต ลำไส้ ไปจนถึงระดับของสารต่าง ๆ ในเลือด จำเป็นต้องได้รับการตรวจอย่างละเอียดเพื่อป้องกันความเสี่ยงโรคเรื้อรังต่าง ๆ การตรวจหัวใจที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพคือการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจว่า มีความผิดปกติหรือไม่ การตรวจการทำงานของตับจะทำให้คัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบหลายชนิด หรือตรวจหามะเร็งตับอ่อน การตรวจเลือดจะช่วยทำให้เห็นระดับน้ำตาล ไขมัน ปริมาณเกล็ดเลือด เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงได้อย่างละเอียด 

2. การตรวจคัดกรองโรคเฉพาะทาง

โรคเฉพาะทางต่าง ๆ ต้องได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีที่มีแพทย์เฉพาะทางเป็นผู้วินิจฉัย เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม ไขข้อและกระดูกเสื่อม มะเร็งลำไส้ การตรวจคัดกรองภายในสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เป็นต้น บางแพ็กเกจอาจได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่น การฉีดวัคซีนป้องกันในราคาพิเศษ เป็นต้น

3. การตรวจฮอร์โมนและภูมิคุ้มกันต่าง ๆ อย่างเจาะลึก

ฮอร์โมนสำคัญต่อการทำงานของร่างกายอย่างยิ่ง แต่ไม่ค่อยมีการตรวจสุขภาพที่เน้นด้านฮอร์โมนและระบบภูมิคุ้มกันอย่างเจาะลึกมากนัก เพราะฮอร์โมนต่าง ๆ มีความซับซ้อน ขึ้นอยู่กับเพศ อายุ และลักษณะการใช้ชีวิตของผู้รับการตรวจด้วย ส่วนการตรวจภูมิคุ้มกันจะช่วยทำให้รู้ว่ามีภูมิคุ้มกันต่อโรคที่เกี่ยวกับไวรัสหรือไม่

หากจะถามว่าการตรวจสุขภาพประจำปีแบบพรีเมียมมีความจำเป็นหรือไม่นั้น เมื่อมองในแง่ของการลงทุนด้านสุขภาพในระยะยาวก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะทำให้เข้าใจสุขภาพร่างกายของตนเองได้ดียิ่งขึ้น วางแผนการทำงานหรือการใช้ชีวิตด้านอื่น ๆ ได้ดีขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ แล้วแต่ปัจจัยในชีวิตของแต่ละคนที่จะลงทุนในส่วนนี้ สิ่งสำคัญคือการไม่ละเลยเรื่องพื้นฐานในการดูแลสุขภาพที่ทุกคนทำได้ นั่นคือการกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอควบคู่กันไป